นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร สมศ. กล่าวรายงานว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อมในหลายด้านโดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เช่น วิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ โดย สมศ.พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในทุกรูปแบบแต่ต้องได้รับความร่วมมือ จากทุกฝ่ายทั้งบุคลากรทางการศึกษา คณาจารย์ และสถานศึกษา เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาคุณภาพของศิษย์ซึ่งเป็นเป้าหมายของการประเมิน
ในปี 2554 ที่ผ่านมา สมศ. ได้ริเริ่มนวัตกรรมการประเมินใน 3 รูปแบบ คือ ตัวบ่งชี้ 3 มิติ การประเมินแบบ 1 ช่วย 9 และการประเมินเชิงพื้นที่ (Area-based Assessment) ที่สะท้อนความเป็นคนดีในสังคมไทย โดยมีจิตอาสาช่วยเหลือเกื้อกูลกันแบบ "น้ำใจไทย" และทำให้เกิดปรากฏการณ์ของการทำงานร่วมกันอย่างเต็มรูปแบบ เจาะทะลุความอ่อนด้อยเพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งของการศึกษา
ด้านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานว่า การปฏิรูปการศึกษา เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทุ่มเทจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษาเป็นจำนวนมากที่สุด โดยหวังว่าจะส่งผลต่อการพัฒนาไปสู่คุณภาพการศึกษาที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ คุณภาพของผู้เรียน ซึ่งตรงกับภารกิจของ สมศ.ที่จะสะท้อนผลของการจัดการศึกษาในภาพรวมของประเทศ สอดคล้องกับแนวคิด "คุณภาพศิษย์ เป้าหมายการประเมิน" ดังนั้น จึงสมควรที่ทุกคนจะต้องทำความเข้าใจว่าคุณภาพการจัดการศึกษา มีความสำคัญอย่างไร เกี่ยวข้องกับประชาชนอย่างไร และจะมีผลกระทบต่อประชาชนในแง่ใดบ้าง
จากปัญหาวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
และปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา
ตลอดจนการเตรียมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558
อาจกล่าวได้ว่า
แท้ที่จริงสาเหตุหนึ่งสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความสำเร็จคือการจัดการศึกษาและ
คุณภาพการศึกษา
เพราะหากการจัดการศึกษาสามารถนำเอาความรู้มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราก็คงจะไม่ประสบปัญหาดังที่เป็นอยู่
หรือเราก็จะสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และหากจะแก้ไขปัญหาในระยะยาวก็จำเป็นจะต้องพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาและผ่า
ตัดระบบการศึกษา ด้วยการปฏิรูปการศึกษาควบคู่กันไป
รัฐบาลจะปฏิรูปการศึกษาโดยเร่งรัดพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาสทางการศึกษา ปฏิรูปครู จัดการศึกษาขั้นอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานทั้งในเชิง ปริมาณและคุณภาพ เร่งพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างทุนปัญญาของชาติ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอา เซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งรัดพัฒนาคุณภาพการศึกษา รัฐบาลจะปฏิรูประบบความรู้ของสังคมไทย โดยยกระดับองค์ความรู้ให้ได้มาตรฐานสากล ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเป็นไทย เพิ่มผลสัมฤทธิ์ของการศึกษาทุกระดับชั้นด้วยการวัดผลจากการทดสอบมาตรฐานใน ระดับชาติและนานาชาติ เป็นต้น
สำหรับการประเมินคุณภาพการศึกษาถือเป็นเครื่องมือสำคัญประการหนึ่ง ของกระบวนการพัฒนา ซึ่งจะบ่งบอกได้ว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งมีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไร จะช่วยให้ผู้รับการประเมินมองเห็นทิศทางในการประเมินได้อย่างชัดเจน โดยมี สมศ.เป็นองค์กรที่สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาดังกล่าว และรัฐบาลสามารถนำผลประเมินที่ได้ไปกำหนดเป็นนโยบายในโอกาสต่อไป
จากนั้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบโล่ให้แก่ผู้มีคุณูปการยิ่งต่อ
สมศ.จำนวน 15 คน อาทิ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
และนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ อดีตกรรมการบริหาร สมศ.
ศ.ดร.สุวิมล ว่องวาณิช
อดีตกรรมการพัฒนาระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา และนายพิเชษฐ
ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นต้น
พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการที่จัดขึ้นบริเวณงานด้วย
ทั้งนี้ การประชุมวิชาการระดับชาติ พ.ศ. 2555
"การประกันคุณภาพการศึกษาไทยใต้ร่มพระบารมี" มีกำหนดจัดงาน
2 วัน ในระหว่างวันที่ 10 - 11 พฤษภาคม 2555 ณ
ศูนย์การจัดนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย
และรายงานคุณภาพการจัดการศึกษาต่อสาธารณชน
รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดพลังภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนความร่วมมือในการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษา ภายในงานประกอบด้วย
การบรรยายและอภิปรายทางวิชาการ โดย
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และนิทรรศการต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ
"การประกันคุณภาพการศึกษาไทยใต้ร่มพระบารมี"
นิทรรศการแสดงผลงานของ สมศ.
และนิทรรศการแสดงกิจกรรมด้านอาชีพ นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์
และงานสร้างสรรค์